สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล ประกาศถึงการปรับเปลี่ยนรูปแบบใบสลาก เพื่อแก้ปัญหาปลอมแปลง – สลากทิพย์ โดยเริ่มที่ หวย งวด 1 สิงหาคม 2565 (16 ก.ค. 2565) พันโท หนุน ศันสนาคม ผู้อำนวยการสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล กล่าวต่อผู้สื่อข่าวถึงกรณีที่มีการนำรูปภาพสลากฯ ไปโพสต์จำหน่าย โดยปกปิดสาระสำคัญบนใบสลาก ทำให้ไม่สามารถตรวจสอบได้ว่า เป็นสลากที่ถูกนำไปวนขายหลายทอด โดยไม่มีสลากจริงหรือที่เรียกกันว่าสลากทิพย์ตามที่ปรากฎเป็นข่าว
อีกทั้ง ยังมีกรณีการนำสลากที่ไม่ถูกรางวัลไปปลอมแปลงแก้ไขตัวเลขแล้วนำไปหลอกขายให้กับประชาชนที่หลงเชื่อต้องสูญเสียทรัพย์สินเงินทอง
อีกทั้งหากนำสลากปลอมแปลงแก้ไขมาขึ้นเงินรางวัล ก็จะถูกดำเนินคดีตามกฎหมายอีกด้วย ซึ่งประเด็นเหล่านี้ ทำให้ประชาชนผู้ซื้อได้รับความเดือดร้อน นอกจากการต้องซื้อสลากราคาเกินกว่าที่กำหนดแล้ว ยังอาจจะถูกหลอกลวงจากการที่ไม่มีสลากฉบับจริง หากถูกรางวัลจะไม่สามารถขึ้นเงินรางวัลได้
เพื่อเป็นการแก้ไขปัญหาดังกล่าว สำนักงานสลากฯ จึงได้ปรับรูปแบบของข้อมูลบนใบสลากจากเดิม “ชุดที่” จะอยู่ใต้ “งวดวันที่” ปรับเปลี่ยนเป็น พิมพ์หมายเลข “ชุดที่” เพิ่มโดยพิมพ์ทับลงบน “งวดวันที่” ซึ่งจะทำให้ เห็นเลขชุดได้อย่างชัดเจน ในตำแหน่งเดียวกับงวดวันที่ ซึ่งเป็นส่วนที่ผู้โพสต์ขายจะต้องเปิดเผยให้ผู้ซื้อเห็นได้อย่างชัดเจนอยู่แล้ว
นอกเหนือจากหมายเลขบนใบสลาก เมื่อผู้ซื้อสลากทราบหมายเลขชุด ก็จะสามารถตรวจสอบได้ว่า สลากฉบับนั้นๆ ได้ถูกนำไปขายที่อื่นด้วยหรือไม่ นอกจากนี้ ยังเป็นการป้องกันการปลอมแปลงบนใบสลากแล้วนำไปหลอกขายให้กับประชาชนอีกด้วย ทั้งนี้ รูปแบบดังกล่าวจะเริ่มพิมพ์ออกจำหน่ายตั้งแต่งวดวันที่ 1 สิงหาคม 2565 เป็นต้นไป
สำหรับ ปัจจัยที่มีผลโดยตรงต่อการเติบโตของการส่งออกสินค้าเกษตร และอาหารมาจากการผนึกการทำงานร่วมกันระหว่างกระทรวงเกษตรฯ และกระทรวงพาณิชย์ ซึ่งพรรคประชาธิปัตย์ดูแลทั้ง 2 กระทรวง ตามนโยบายตลาดนำการผลิต โมเดลเกษตร พาณิชย์ทันสมัย ตั้งแต่ปลายปี 2562 จนถึงปัจจุบัน
การสร้างความเชื่อมั่นและสนับสนุนการขยายตัวของการลงทุนภาคเอกชน โดย (i) การขับเคลื่อนการส่งออกเพื่อเพิ่มระดับการใช้กำลังการผลิตในภาคอุตสาหกรรม (ii) การผลักดันโครงการลงทุนที่ขอรับและได้รับอนุมัติส่งเสริมการลงทุนให้มีการลงทุนจริงโดยเร็ว (iii) การสนับสนุนให้ผู้ประกอบการและนักลงทุนที่ได้รับผลกระทบจากมาตรการกีดกันทางการค้าเพิ่มการใช้กำลังการผลิตและย้ายฐานการผลิตมาประเทศไทย โดยเฉพาะการดำเนินการตามนโยบายการส่งเสริมการลงทุนและมาตรการรองรับการย้ายฐานการผลิตของนักลงทุนต่างชาติ (Thailand Plus Package) ของสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (iv) การขับเคลื่อนโครงการลงทุนของภาครัฐ และ (v) การเตรียมความพร้อมด้านกำลังแรงงานและคุณภาพแรงงาน และ (5) การดูแลเกษตรกร กำลังแรงงาน ผู้มีรายได้น้อย วิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม และเศรษฐกิจฐานราก
เงินช่วยเหลือพิเศษผู้สูงอายุ เริ่มจ่าย 19 ก.ค.นี้ จ่ายรวดย้อนหลัง 4 งวด ได้เท่าไหร่ เช็กเลยที่นี่
เงินผู้สูงอายุเข้าวันไหน กรมบัญชีกลาง เคาะ เงินช่วยเหลือพิเศษผู้สูงอายุ เริ่มจ่ายวันแรก 19 ก.ค. 65 ย้อน 4 งวด ผู้รับเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุก็มีสิทธิรับ เบี้ยพิเศษผู้สูงอายุ
ลูกหลานเตรียมบอกข่าวได้เลย เงินช่วยเหลือพิเศษผู้สูงอายุ เตรียมโอนเข้าวันพรุ่งนี้ 19 กรกฎาคม 2565 กรมบัญชีกลาง ได้เปิดเผยผ่านเพจเฟซบุ๊ก กรมบัญชีกลาง The Comptroller General’s Department ประชาสัมพันธ์ข่าวการรับเงินช่วยเหลือพิเศษผู้สูงอายุ ตั้งแต่เดือนเมษายนถึงเดือนกันยายนต่อเนื่อง 6 เดือน โดยจะเริ่มจ่ายโดยการโอนเงินผ่านบัญชีเงินฝากธนาคาร ในวันอังคารที่ 19 ก.ค. นี้ พร้อมแจ้งรายละเอียด ดังนี้
“นางสาววารี แว่นแก้ว รองอธิบดีกรมบัญชีกลาง ในฐานะโฆษกกรมบัญชีกลาง เปิดเผยว่า ตามที่คณะรัฐมนตรีได้มีมติเมื่อวันที่ 5 กรกฎาคม 2565 อนุมัติการจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปี พ.ศ. 2565 งบกลางรายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น เพื่อแก้ไขเยียวยาความเดือดร้อนเสียหายในบางกรณี
การจ่ายเงินช่วยเหลือพิเศษผู้สูงอายุ จำนวน 10.94 ล้านคน วงเงิน 8,382.20 ล้านบาท เพื่อบรรเทาผลกระทบด้านเศรษฐกิจ ตามที่กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์เสนอ โดยผู้สูงอายุที่ได้รับเงินเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ จะได้รับเงินช่วยเหลือพิเศษผู้สูงอายุ 100 – 250 บาท/คน/เดือน เป็นเวลา 6 เดือน (เมษายน – กันยายน 2565) กรมบัญชีกลางในฐานะหน่วยงานที่ทำหน้าที่ในการเบิกจ่ายเงินงบประมาณดังกล่าว เพื่อโอนเงินเข้าบัญชีเงินฝากธนาคารให้แก่ผู้มีสิทธิรับเงินโดยตรงแทนกรมกิจการผู้สูงอายุ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์
โดยจะจ่ายเงินรอบแรกในวันที่ 19 กรกฎาคม 2565 รวม 4 เดือน (เมษายน – กรกฎาคม 2565) รอบถัดไป ในวันที่ 19 สิงหาคม 2565 และ 19 กันยายน 2565 ตามลำดับ ซึ่งผู้มีสิทธิที่ได้รับเงินเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ จะได้รับเงินช่วยเหลือพิเศษผู้สูงอายุ (ตาราง) ทั้งนี้ สามารถสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ Call Center กรมบัญชีกลาง 0 2270 6400 ในวัน เวลาราชการ” โฆษกกรมบัญชีกลาง กล่าว #กรมบัญชีกลาง #สวัสดิการแห่งรัฐ #เบี้ยผู้สูงอายุ”
ธุรกิจที่ต้องใช้เงินลงทุนสูง อาทิ บริการออกแบบทางวิศวกรรม และบริหารจัดการโครงการปลดประจำการเรือสำหรับผลิตและเก็บปิโตรเลียม บริการออกแบบ จัดหา ก่อสร้าง ติดตั้งและทดสอบเครื่องมือและอุปกรณ์สำหรับโครงการก่อสร้างโรงงานผลิตเม็ดพลาสติก เป็นต้น
Credit : ที่เที่ยวญี่ปุ่น | จัดอันดับต่างๆ | รีวิวของแบรนเนม | วิธีการลงทุนต่าง