AIS เปิด สายด่วนแจ้งเบอร์โทรมิจฉาชีพ – 1185

AIS เปิด สายด่วนแจ้งเบอร์โทรมิจฉาชีพ – 1185

เอไอเอส (AIS) ทำการประกาศถึงความร่วมมือกับตำรวจไซเบอร์ในการเปิดให้บริการ สายด่วนแจ้งเบอร์โทรมิจฉาชีพ – 1185 เพื่อจัดการกับปัญหาดังกล่าว (8 เม.ย. 2565) เอไอเอส (AIS) หนึ่งในผู้บริการเครือข่ายสัญญาณรายใหญ่ของประเทศไทย ได้ประกาศถึงการเปิดให้บริการ สายด่วนแจ้งเบอร์โทรมิจฉาชีพ – 1185 โดยเป็นการดำเนินการที่ได้รับความร่วมมือจาก กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี หรือ ตำรวจไซเบอร์

โดยเป็นความร่วมมือกันเพื่อทั้งป้องกันปัญหาจากมิจฉาชีพที่แอบอ้างตัวว่าเป็นหน่วยงาน 

หรือองค์กรต่าง ๆ ที่มีการแพร่ระบาดเป็นอย่างมากในเวลานี้ ซึ่งสายด่วนดังกล่าวนั้นจะเป็นช่องทางในการรายงานถึงเบอร์โทรศัพท์ หรือต้นทางของเหล่ามิจฉาชีพให้แก่ตำรวจในการดำเนินการต่อ และให้แก่ผู้บริการเพื่อปิดกั้นการเข้าถึง รวมถึงป้องกันตัวผู้แจ้งอีกด้วย

ในส่วนของรายละเอียดของสายด่วนแจ้งเบอร์โทรมิจฉาชีพมีด้วยกันดังนี้ (จากทาง AIS)

ช่วงนี้เราน่าจะเคยได้ยินข่าวหรือประสบพบเจอกับมิจฉาชีพทางมือถือกันบ่อย ๆ ตอนนี้ทาง AIS จึงได้มีบริการแจ้งเบอร์โทรมิจฉาชีพ ผ่านเบอร์ 1185 (โทรฟรี) ซึ่งจะให้บริการผ่านระบบตอบรับอัตโนมัติและช่องทางแชทอุ่นใจ เพื่อให้ลูกค้าทำรายการได้ด้วยตนเอง โดยไม่จำเป็นต้องติดต่อ Call Center

แม้บริการ 1185 จะเป็นบริการสำหรับลูกค้า AIS เท่านั้น แต่สามารถแจ้งเบอร์ที่น่าสงสัยได้ทุกเบอร์ ไม่ว่าจะเป็นเบอร์เครือข่ายอื่น เบอร์บ้าน หรือเบอร์ต่างประเทศ หรือหากเป็นเบอร์น่าสงสัยโทรเข้ามาแม้ไม่ได้อ้างชื่อ AIS เราก็สามารถแจ้งผ่าน 1185 ได้ นอกจากนี้ ในกรณีที่ทีมทำการตรวจสอบแล้วพบว่าเป็นมิจฉาชีพ หรือ ไม่ใช่มิจฉาชีพก็ตาม เราก็สามารถตั้งค่าบล็อกการรับสายหรือข้อความที่ตัวเครื่องได้ ดูวิธีตั้งค่า คลิก

สำหรับลูกค้าที่ติดตั้งแอปฯ Whoscall การแจ้งเตือนของ Whoscall จะใช้ข้อมูลจากที่บุคคลทั่วไปเข้ามาระบุหมายเลข ส่วนบริการ 1185 ของ AIS จะนำข้อมูลที่ได้จากลูกค้าส่งตรวจสอบจากระบบก่อนแจ้งกลับลูกค้านั่นเอง

นอกจากนี้ OPPO ยังเชิญชวนให้ผู้ใช้งานได้มาร่วมสนุกด้วยการถ่ายภาพในที่แสงน้อยหรือในช่วงเวลากลางคืน แล้วโพสต์ภาพถ่ายแสงน้อยที่มักประสบปัญหาต่างๆ ของตัวเองใต้โพสต์พร้อมแชร์เรื่องราวบอกเล่าลักษณะของภาพและเหตุผลที่ไม่ชอบ ก่อนจะมา #SaveTheNight พร้อมกันวันที่ 20 เมษายนนี้

มาร่วมติดตามประสิทธิภาพการถ่ายภาพของ OPPO Find X5 Pro สมาร์ตโฟนแฟลกชิปอันทรงพลังที่จะมายกระดับวงการสมาร์ตโฟนไปอีกขั้นในงานเปิดตัวอย่างเป็นทางการ วันพุธ ที่ 20 เมษายนนี้ ตั้งแต่เวลา 18:30 น. เป็นต้นไป ผ่านช่องทาง Facebook OPPOTHAI, Line OPPO Thailand และ YouTube OPPO Thailand

ซาอุดิอาระเบีย ถือครองหุ้น SNK ถึง 96%

มงกุฎราชกุมารของ ซาอุดิอาระเบีย ทำการเข้าซื้อหุ้นของ SNK บริษัทเกมส์ชื่อดังสัญชาติญี่ปุ่น โดยได้กว้านไปเป็นจำนวนรวมถึง 96% (นับตั้งแต่ปี 2020) (7 เม.ย. 2565) เจ้าชายมุฮัมมัด บิน ซัลมาน บิน อับดุลอะซีช อัลซะอูด มงกุฎราชกุมารของประเทศ ซาอุดิอาระเบีย ได้ดำเนินการผ่านทางบริษัทตัวแทน Electronic Gaming Development Company (EGDC) ในการเข้าซื้อหุ้นของบริษัทเกมส์ (ทั้งผู้พัฒนา และตัวแทนจำหน่าย) ชื่อดังในตำนาน – SNK เป็นจำนวนรวมถึง 96%

โดยทาง EGDC นั้น เริ่มดำเนินการเข้าซื้อหุ้นของ SNK ตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2020 เป็นจำนวน 33.3% พร้อมทั้งก็ได้เปิดเผยว่าทางบริษัทมีแผนที่จะทำการซื้อหุ้นเพิ่มเติมในภายหลัง ซึ่งก็เป็นตามนั้นจริง เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ทำให้ EGDC ถือหุ้นทั้งหมดเป็นปริมาณ 96% ทำให้บริษัทนั้นถือว่าเป็นเจ้าของ SNK ไปโดยปริยาย

SNK นั้น เป็นที่รู้จักจากซีรีส์ King of Fighters และ Samurai Showdown รวมไปถึงเครื่องเล่น Neo-Geo ที่ถึงแม้ว่าจะไม่ได้สามารถสู้อยู่รอดมาถึงปัจจุบันได้ แต่ก็เป็นหนึ่งในเครื่องเล่นเกมส์ที่น่าสนใจในยุคสมัยนั้น จนมาในช่วงต้นของปี 2000s นั้น บริษัทก็ได้ยื่นล้มละลายในที่สุด และดำเนินการขายแผนกฮาร์ดแวร์ และดื้นรนมาเรื่อย ๆ 

ในส่วนของ EGDC นั้น SNK ไม่ใช่บริษัทเดียวที่มีการเข้าซื้อหุ้น หรือลงทุนด้วยเท่านั้น บริษัทดังกล่าวได้ดำเนินการลงทุนกับ Activision Blizzard (เข้าซื้อหุ้นเป็นมูลค่าราว 9 พันล้านดอลลาร์), EA (1.9 พันล้านดอลลาร์), Take-Two (1 พันล้านดอลลาร์)

แต่ด้วยประวัติอันด่างพร้อยของเจ้าชายผู้ซึ่งสนับสนุนการละเมิดสิทธิมนุษยชน, ถูกโยงถึงการฆาตกรรมของ Jamal Khashoggi และชื่นชอบในแนวทางการดำเนินการของค่าย Re-Education ในพื้นที่เขตปกครองตนเองซินเจียงอุยกูร์ ก็ทำให้บางบริษัทต้องถอนตัวจากร่วมมือกับ EGDC เช่น Riot Games เป็นต้น

จากข้อมูลเหล่านี้ทำให้ได้เข้าตาสภาของสหรัฐอเมริกา ซึ่งก็ทำให้เกิดการไต่สวนขึ้นมา และตัว Haugen นั้น ได้ถูกเรียกเชิญไปให้การกับรัฐสภาในวันนี้ (อังคาร) โดยในเวลานี้ทาง Facebook ได้ออกมาปฏิเสธถึงการกล่าวหาที่ว่า พร้อมทั้งพูกว่าสิ่งที่หลุดออกมานั้นเป็นเรื่องไร้สาระ จากคำพูดของ Nick Clegg รองประธานฝ่าย Global Affair ของ Facebook

คือการระบุตำแหน่งเพียงครั้งคราวเพื่อลดการเข้าถึงข้อมูลจากแอปแผนที่ต่าง ๆ (น่าจะคล้าย ๆ กับมือถือ iPhone ที่มีให้เลือกว่าจะให้แอปนั้น ๆ เข้าถึงทั้งหมด หรือ เฉพาะระหว่างการใช้งาน ?)

Credit : ที่เที่ยวญี่ปุ่น | จัดอันดับต่างๆ | รีวิวของแบรนเนม | วิธีการลงทุนต่า